It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout.

Contacts
seozie-img
seo คืออะไร จำเป็นต้องรู้

SEO คืออะไร? สำคัญมากสำหรับคนที่อยากให้เว็บไซต์ขึ้นอันดับ Google

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า SEO แต่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร แล้ว SEO คือการขึ้นอันดับต้นๆ ของ Google จริงไหม

บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ SEO ว่าคืออะไร สำคัญอย่างไร โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ และทำไมทุกคนควรทำ SEO รวมถึงคำถาม ประเด็น ที่หลายคนชอบสงสัย ผมรวบรวมมาในนี้หมดแล้วครับ อ่านจบแล้ว คุณจะเข้าใจ SEO อีกเยอะเลยครับ

SEO คืออะไร?

SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการทางการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกในการค้นหาบน Google เหมือนกับเวลาที่คุณค้นหาอะไรสักอย่าง พิมพ์บน Google แล้วก็เจอ นั่นแหละครับ เว็บที่คุณเจอ เพราะเค้าทำ SEO

เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองดูภาพด้านล่างนี้ครับ

ตัวอย่างการค้นหา Google คำว่า รถเช่า
ตัวอย่างการค้นหาบน Google คำว่า “รถเช่า”

สมมติว่าคุณจะค้นหา รถเช่า ใน Google สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีบริการรถเช่า อันนี้แหละครับคือเว็บเหล่านี้ทำ SEO เลยทำให้ขึ้นอันดับบน Google ซึ่งการทำ SEO นอกจากจะทำให้คนมองเห็นได้เยอะขึ้นแล้ว ยังมีโอกาสเพิ่มยอดคลิก และเพิ่มยอดขายอีกด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มจะคลิกเว็บที่อยู่บนๆ ของ Google เพราะมีผลการสำรวจจาก Ahref พบว่า คนส่วนใหญ่จะคลิกผลการค้นหาที่หน้าแรก มากถึง 95% และไปหน้าสองเพียง 21% แถมในหน้าแรก ยังคลิกเว็บที่อยู่อันดับหนึ่งถึง 33% อันดับสอง 16% ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมแทบทุกเว็บจึงอยากทำ SEO เพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของ Google ครับ

การทำ SEO ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่การทำบทความที่มีคุณภาพ และตรงกับ Keyword ที่ลูกค้ากำลังสนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Media New Gen ให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นหัวใจในการขึ้นอันดับของ Google ครับ โดย Keyword เราสามารถกำหนดได้ตามประเภทของธุรกิจนั้นๆ เช่น ชื่อแบรนด์ ชื่อประเภทสินค้า ชื่อสินค้าต่างๆ โดยไม่ได้เป็นการโฆษณาบน Google แต่เป็นการพัฒนาคอนเทนต์ ปรับปรุงเว็บไซต์ไปเรื่อยๆ การทำ Backlink ทำ On-Page SEO จนได้ขึ้นหน้าแรกบน Google อย่างค่อยเป็นค่อยไป และยั่งยืน

ในการขึ้นหน้าแรก Google จะพิจารณาและค่อยๆ เลื่อนอันดับหน้าเว็บให้ อย่างที่ได้กล่าวไปว่า การทำ SEO ไม่ได้เสียเงินให้ Google ดังนั้นจึงเป็นงานระยะยาวที่ทุกคนต้องตั้งใจพัฒนาเว็บไซต์ ปรับปรุงคอนเทนต์ จน Google อนุญาตให้เราได้ขึ้นลำดับหน้าแรก เลยเป็นสาเหตุที่ต้องใช้เวลาทำ เพราะทุกคนก็ต่างอยากขึ้นหน้าแรก Google กันทั้งนั้น

SEO สำคัญต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหน?

สำคัญมากครับ!! กระบวนการ SEO เป็นส่วนหนึ่งของการตลาดออนไลน์ที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาทให้ Google และเป็นสิ่งที่ Google รับประกันแล้วว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ จึงได้ขึ้นอันดับ ดังนั้น SEO จึงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ และไม่ได้ขึ้นอันดับกันง่ายๆ เลยทำให้ SEO สำคัญต่อธุรกิจมาก

ที่สำคัญ SEO สร้าง Conversion Rate (อ่านเรื่อง Conversion ได้ที่นี่) หรือผลลัพธ์ได้สูงกว่าการยิงโฆษณา Google เพียงอย่างเดียว เพราะความน่าเชื่อถือ คอนเทนต์ที่ตรงกับ Keyword หรือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เลยทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ได้ยอดขายจำนวนมากหลังจากการทำ SEO ซึ่ง SEO ไปเพิ่ม Brand Awareness หรือเพิ่มการรับรู้ธุรกิจของคุณได้มาก

และยิ่งปัจจุบัน ใครอยากรู้เรื่องอะไร ก็เข้า Google กันแทบทุกคน เลยเป็นสิ่งยืนยันว่า SEO สำคัญกับธุรกิจของคุณมาก และสร้างยอดขายให้กับธุรกิจได้จริง

แล้วการยิงโฆษณา Google ยังจำเป็นหรือมีความสำคัญหรือไม่?

เนื่องจากการทำ SEO ต้องใช้เวลาระดับหนึ่ง จึงมักมีคำถามว่าแล้วการยิงโฆษณาบน Google (PPC – Pay Per Click) ยังคงจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่ง Media New Gen มองว่า หากลูกค้ามีงบประมาณไหว ควรทำควบคู่กันทั้ง SEO และยิงโฆษณา Google (PPC) เนื่องจากทั้งสองมีจุดประสงค์ที่ต่างกัน และเสริมข้อดีซึ่งกันและกัน ดังนี้

SEO จะเป็นการทำคอนเทนต์และเว็บไซต์ในระยะยาว สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่ม Traffic ได้ดี เพียงแค่ต้องใช้เวลา ส่วนยิงโฆษณา Google จะสร้างผลลัพธ์ได้ในทันที ยิงโฆษณาปุ๊บ ขึ้นบน Google ทันที เพียงแต่หากหยุดจ่ายค่าโฆษณา ก็จะไม่ขึ้นอันดับบน Google อีกเลย ดังนั้นเราจึงมองว่า หากทำทั้งสองควบคู่ไปได้ จะลดจุดด้อยของแต่ละอย่างออกไปได้ อีกทั้งการทำโฆษณาช่วงแรก จะเพิ่ม Brand Awareness ให้กับลูกค้าได้ เมื่อเวลาผ่านไป พอเว็บไซต์ติด SEO จะช่วยให้ Traffic สูงขึ้น หรือลูกค้าตัดสินใจเข้าเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้นครับ

SEO หรือ SEM เรื่องที่หลายคนสับสน

หลายคนมักจะสับสนว่า SEO คือการติดอันดับแบบ Organic ส่วน SEM คือการยิงแอดบน Google ซึ่งไม่ถูกต้อง ความจริงแล้วสองตัวมีรายละเอียดดังนี้

ข้อแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM

ความจริงแล้ว SEM คือการทำการตลาดบน Google ซึ่งแยกเป็นสองอย่างคือ

  1. SEO (Organic Search) คือ การทำการตลาดออนไลน์ให้ขึ้นอันดับแบบ Organic หรือแบบธรรมชาติ
  2. PPC (Paid Search) คือการทำการตลาดออนไลน์ให้ขึ้นอันดับแบบ Paid หรือเสียเงิน ซึ่งอันนี้แหละคือการยิงโฆษณาบน Google ครับ โดย PPC จะครอบคลุมถึง Google Search Ads, Google Display Network (GDN), Google Shopping Ads, Youtube Ads ครับ

ฉะนั้นสรุปได้ว่า SEO คือวิธีแบบ Organic / PPC คือการยิงโฆษณา Google / SEM คือหัวข้อใหญ่ครับ แยกย่อยได้สองอย่าง (SEM ไม่ใช่การยิงโฆษณา Google แบที่หลายคนเข้าใจครับ)

เริ่มทำ SEO เมื่อไหร่ดี? จำเป็นหรือไม่?

คำแนะนำของ Media New Gen คือ ทำทันที ครับ เพราะ SEO เป็นเรื่องที่ใช้เวลา หากคุณตัดสินใจช้า หรือรอไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับเสียโอกาสการทำ SEO ไปเรื่อยๆ ยิ่งเริ่มทำตอนที่เว็บไซต์เพิ่งเสร็จ หรือเพิ่งสร้างเว็บไซต์จะดีมากครับ เพราะ SEO เปรียบเสมือนการวางรากฐานให้แข็งแรง พร้อมกับการขึ้นอันดับ Google ครับ

พร้อมทำ SEO แล้ว ต้องรู้อะไรบ้าง? ทำอะไรบ้าง?

ถ้าคุณพร้อมทำ SEO แล้ว ยินดีด้วยครับ คุณกำลังทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะจ้าง Media New Gen หรือทำเอง ผมอยากให้คุณเข้าใจหลักการทำ SEO ว่าทำงานอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้สื่อสารกับคนทำ และเห็นภาพ SEO ในอนาคตได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การทำ SEO ประสบผลสำเร็จได้ง่ายครับ และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรรู้ครับ

1. เข้าใจหลักการทำงานของ Search Engine Google เบื้องต้น

หลักการทำงาน เวลาเราค้นหาอะไรก็ตามบน Google คือ เมื่อเราค้นหาสิ่งต่างๆ เช่น รถเช่า Google จะนำ Keyword ของเราไปเช็คกับฐานข้อมูลว่า มีเว็บไหนบ้างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ รถเช่า จากนั้น Google จะแสดงผลเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ รถเช่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ค้นหาครับ

2. วางแผนเป้าหมายการทำ SEO ระยะยาว

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการทำ SEO คือ การวางแผนทำการตลาด และมองเห็นปลายทางในการทำ SEO ว่าสุดท้ายคุณอยากให้ใคร ค้นหาบน Google แล้วเจอเว็บเรา และ คุณก็จะรู้ว่า Keyword แบบไหน ที่คนเหล่านั้นมักจะค้นหา เพื่อมาเจอเว็บไซต์ของคุณ

ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจเห็นเป้าหมายของตัวเองระยะยาว ก็จะสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นแผนการทำ SEO ได้อย่างดี และเข้าใจดีว่า ใครน่าจะค้นหาธุรกิจของเรา และน่าจะค้นหามาจากคำว่าอะไร

3. วางแผน Keyword Research เลือกคำที่เป็นหัวใจของธุรกิจของคุณ

Keyword หรือ คำค้นหา เป็นหัวใจหลักที่สุดของการทำ SEO เพราะนี่คือสิ่งที่ลูกค้าจะค้นหาบน Google แล้วเจอเว็บไซต์ของเรา โดยในการที่เราจะเลือก Keyword สามารถทำได้โดยการใช้โปรแกรมเฉพาะทางที่ช่วยเรื่อง SEO โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เลือก Keyword ได้อย่างทุกต้อง มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ และมีปริมาณการค้นหาจริงทุกเดือน แล้วนำ Keyword นั้นมาเขียนคอนเทนต์ และใส่ลงบนเว็บไซต์ของคุณ

แล้ววิธีในการหา Keyword ที่ดี เป็นอย่างไร ผมลิสให้ไว้ในด้านล่างนี้แล้วครับ

1) ใช้โปรแกรมด้าน SEO ในการค้นหา Keyword ที่เหมาะสม

กฏเหล็กข้อแรกที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามคิด Keyword เองตามใจฉัน เพราะคุณอาจได้ Keyword ที่ไม่มีใครค้นหาเลย คุณอาจจะใช้โปรแกรมช่วยหา Keyword ฟรีของ Google ชื่อ Google Keyword Planner หรือใช้โปรแกรมที่มีค่าใช้จ่าย (แต่ได้ข้อมูลที่ลึกกว่า) อย่าง Ubersugest หรือ Ahrefs ทั้งสามโปรแกรมนี้จะบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Keyword ที่คุณสนใจ

2) Keyword ต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

หลังจากที่ใช้โปรแกรมตามข้อ 1 แล้ว ควรเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจรถเช่า Keyword ก็ควรเป็นคำว่า รถเช่าขับเอง / รถเช่ารายวัน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า และเป็น Keyword ที่สร้างยอดขายได้สูง

3) Keyword ต้องมีปริมาณการค้นหาจริง

Keyword ที่คุณเลือก จำเป็นต้องมีปริมาณการค้นหามากเพียงพอที่จะทำ SEO โดยโปรแกรมในข้อ 1 สามารถเช็คได้ ซึ่งปริมาณมาก-น้อย ก็อาจจะขึ้นกับประเภทธุรกิจ ความเจาะจงของสินค้า โดยหาก Keyword ที่เลือกมามีปริมาณการค้นหาน้อยเกินไป อาจทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับ Google อย่างที่ต้องการ เนื่องจากไม่มีใครค้นหาด้วย Keyword ที่คุณเลือก ก็เท่ากับไม่มี Traffic เข้าเว็บไซต์ครับ

4) เลือก Keyword ที่มี Search Intent ที่แสดงถึงการตั้งใจซื้อสินค้าหรือบริการ

คำว่า Search Intent คือความตั้งในในการค้นหา เราควรเลือก Keyword ที่แสดงถึงความตั้งใจซื้อสินค้าหรือบริการ Keyword เหล่านี้สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้จริง ยกตัวอย่างเช่น

  • หารถเช่า กรุงเทพ
  • จอง iPhone 13 Pro 128GB
  • จองร้านอาหารอินเดีย กรุงเทพ

4. เริ่มเขียนคอนเทนต์

พอได้ Keyword แล้ว คุณก็เริ่มทำ SEO ได้เลย เริ่มจากเขียนคอนเทนต์ อัพเดทเนื้อหาในเว็บไซต์ โดยเน้นไปที่ Keyword ที่เราได้คัดเลือกมาแล้ว โดยหลักการเขียนคอนเทนต์ที่ดีมีง่ายๆ คือ

  • เขียนคอนเทนต์ที่อิงจาก Keyword ไม่เขียนสะเปะสะปะ
  • ไม่ลอกคอนเทนต์จากเว็บไซต์อื่น หรือคนอื่น
  • เนื้อหาที่เขียนควรไม่ยาว หรือสั้นเกินไป และควรมี Topic ที่ชัดเจน ไม่เขียนแบบไร้จุดหมาย
  • ตรวจสอบการสะกดคำ หลักไวยากรณ์ให้ถูกต้อง

ที่สำคัญหมั่นอัพเดทคอนเทนต์สม่ำเสมอนะครับ อย่าเขียนทิ้งไว้โดยไม่ปรับปรุงเลย แบบนี้จะส่งผลเสียต่ออันดับครับ เพราะ Google ชอบให้เว็บไซต์อัพเดทสม่ำเสมอ Google ก็จะได้รับข้อมูลจากเว็บของเราอยู่เรื่อยๆ

5. ทำ On-Page SEO ให้กับเว็บไซต์

On-Page SEO คือหัวใจของการทำ SEO หลักการคือปรับแต่ง เขียน Title, Meta Data ใส่ Keyword ลงในเว็บ ใส่ Keyword ในรูปภาพ (ใส่ ALT Text) หรือการปรับแต่ง URL และอีกมาก การทำ On-Page SEO ยังรวมถึงการทำ Keyword Research หรือการวางแผน Keyword อย่างละเอียดอีกด้วย (อยากรู้ว่า On-Page SEO ต้องทำอย่างไรบ้าง อย่างละเอียด คลิกอ่านได้ที่นี่)

6. ทำ Backlink และ Internal Link

การทำ SEO ที่ดีส่วนหนึ่งจะต้องมาจาก Link Building ที่ดีด้วย ขอแยกเป็นสองส่วนดังนี้

  1. Internal Link คือการทำ Link ไปยังหน้าอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้คนมีโอกาสไปดูหน้าอื่นๆ และยังเปิดโอกาสให้ Google ไปยังหน้าอื่นๆ ที่คนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักด้วย เพราะเวลาที่ Google มาตรวจสอบเว็บ มักจะเข้ามายังหน้าที่เคยมาก่อน การทำ Internal Link จะช่วยให้ Google เห็นว่ามีเส้นทางไปหน้าอื่น ก็มีโอกาสที่จะไปดูต่อเรื่อยๆ
  2. ฺBacklink หรือการให้เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา โดยเว็บที่จะ Link มาควรเป็นเว็บที่น่าเชื่อถือ และควรทำลิงก์เป็นแบบ “Dofollow” เพราะจะเป็นผลดีกับ SEO มากที่สุด ตัวอย่างง่ายๆ ในการทำ Backlink คือ อาจจะให้เว็บบล็อก เขียนคอนเทนต์แล้ว Mention ถึงเราโดยการแปะลิงก์เว็บเราไว้ใน Blog นั้น ให้คนกดจาก Blog นั้นเข้ามายังเว็บไซต์ของเรา ทั้งนี้เว็บ หรือคอนเทนต์ที่ลิงก์มา ควรเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา หรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ ไม่อย่างนั้น Google อาจจะมองว่าเป็น Backlink ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ส่งผลดีต่อ SEO ครับ

7. ปรับแต่ง Structure เว็บไซต์ให้ดี เอื้อต่อ SEO

เรื่องของโครงสร้างเว็บไซต์ก็มีส่วนสำคัญต่อ SEO ครับทั้งในแง่ความปลอดภัย การใช้งานง่าย ความเร็ว ซึ่งตรงนี้หากสามารถดูแล (หรือจ้างคนดูแล) ได้จะมีผลต่อ SEO ได้มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น

  • การทำ HTTPS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนเว็บไซต์
  • การทำ robot.txt สำหรับ Search Engine ให้ Google มาเก็บข้อมูลเว็บไซต์
  • การเลือก Host ที่ดี ปลอดภัย ไว้ใจได้
  • การทำ Navigation บนเว็บให้ดี รู้ว่าจะไปหน้าไหนยังไง อยู่หน้าไหน ทำให้ผู้อ่านเข้าใจโครงสร้างเมนูของเว็บได้แบบง่ายๆ
  • การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Responsive Design ดูบนมือถือได้ง่าย

8. ให้ความสำคัญเรื่อง Core Web Vitals

Core Web Vitals คือปัจจัยทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ Google มองว่าสำคัญต่อผู้ใช้งาน และส่งผลดีทางอ้อมต่อ SEO หากเราใส่ใจ โดยมีคอนเซปต์ดังนี้

  1. Page Speed – ต้องเร็ว โหลดหน้าเว็บเร็ว ไม่รอโหลดนาน
  2. HTTPS – ความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องมี Host ส่วนใหญ่จะมี HTTPS ให้อยู่แล้ว
  3. Mobile Friendly – เปิดเว็บจากมือถือต้องดูง่าย
  4. No Popup – ไม่มี Popup เด้งให้รำคาญตา

สามารถเข้าไปดูรายละเอียด Core Web Vitals เพิ่มเติมได้ ที่นี่

9. ปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีความเร็วมากขึ้น

เรื่องนี้ Google ให้ความสำคัญมากครับ โดยสถิติจาก Google บอกว่าหากเว็บไซต์โหลดนานเกิน 3 วินาที Traffic ที่เข้าเว็บไซต์จะหายไปกว่า 60% ครับ ดังนั้นความเร็วเว็บไซต์จึงมีผลต่อ SEO มากครับ โดยวิธีการที่จะช่วยเพิ่มความเร็วเว็บไซต์มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • บีบอัดรูปภาพให้เล็กลง
  • ใช้ Plugin ช่วยเพิ่มความเร็ว (สำหรับ WordPress)
  • เลือก Host ที่ดีๆ ก็ช่วยได้ครับ
  • ใช้ CDN หรือ Content Delivery Network คือการนำคอนเทนต์ไปฝากไว้ในเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้การโหลดเว็บไซต์ไวยิ่งขึ้น
  • เปิดใช้งาน Cache บนเว็บไซต์ โดยจะเป็นการสร้างไฟล์รอไว้โดยไม่ต้องเชื่อมกับฐานข้อมูล ซึ่งทำให้การโหลดหน้าเว็บไซต์เร็วขึ้น

และยังมีเทคนิคอื่นๆ อีกมาก ซึ่ง Media New Gen ยินดีให้คำปรึกษาครับ

10. ทุกข้อที่ได้กล่าวมา ต้องหมั่นตรวจสอบ และเข้ามาดูสม่ำเสมอครับ

หลักสำคัญอีกข้อของการทำ SEO คืออย่าทิ้งไว้นาน เมื่อทำเสร็จแล้ว ต้องกลับมาเช็คอันดับ ปรับปรุงคอนเทนต์ และพัฒนาสม่ำเสมอเพื่อให้อันดับขึ้นมา อย่าปล่อยไว้โดยไม่ทำอะไรเพิ่มอีกครับ ไม่อย่างนั้นอันดับอาจจะไม่ได้ขึ้นตามที่ต้องการ

ประโยชน์ที่จะได้จากการทำ SEO

เห็น SEO ต้องทำหลายอย่างแล้วเหนื่อย อย่าเพิ่งท้อนะครับ เพราะ SEO มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ไม่ว่าจะเป็น

  1. สร้างลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
  2. ประหยัดค่าโฆษณาในระยะยาว เพราะ SEO ทำฟรี! และเมื่อเว็บติดอันดับแล้ว การโฆษณาก็อาจไม่จำเป็น
  3. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ

รู้เรื่อง SEO เยอะขนาดนี้แล้ว จะทำเองดี หรือจ้างทำ

ผมแนะนำให้ดูว่าในบริษัท หรือตัวคุณพร้อมแค่ไหน มีความรู้ มีเวลา รวมถึงงบประมาณให้มากน้อยแค่ไหน

หากคุณมีเวลาเยอะ พอศึกษาเองได้ แนะนำให้ทำเองครับ เพราะประหยัดงบและทำได้ตรงใจมากกว่า

แต่หากบริษัทหรือตัวคุณไม่มีเวลาเลย หรือพอมีงบประมาณ แนะนำให้จ้างทำครับ เพราะให้มืออาชีพทำให้ ก็จะช่วยประหยัดเวลา คุณมีเวลาไปทำงานอื่น อีกอย่างบริษัทที่รับทำเค้าจะมีเวลาดูให้อย่างดี มีเทคนิคเฉพาะที่ทำให้อันดับขึ้นไวขึ้น ยั่งยืนมากขึ้นครับ

และหากคุณสนใจจ้างทำ SEO ลองปรึกษากับเราก่อนได้ครับ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเรื่องการทำ SEO ครับ

สรุป

และนี่ก็คือภาพรวมทั้งหมดของการ SEO ครับ จะเห็นว่า SEO สำคัญมากต่อธุรกิจของคุณ และทุกๆ ธุรกิจควรทำ SEO เพื่อให้ติดอันดับ Google เพราะนับวันค่าโฆษณาก็จะแพงมากขึ้นทุกวัน ที่สำคัญ SEO จะช่วยเพิ่ม Traffic คนเข้าเว็บไซต์ในระยะยาว โดยที่ไม่เสียเงินมากนัก

โอกาสหน้าผมจะเจาะลึกแต่ละหัวข้อของการทำ SEO ให้ละเอียดขึ้น สามารถทำตามหรือนำไปปรับใช้ได้ครับ หรือหากคุณอยากให้เราเขียนบทความหัวข้อไหน ก็ติดต่อมาได้ครับ